วิธีเลี้ยงโคเนื้อสร้างอาชิพ

How_to_build

Cow-grazing

การเลี้ยงโคเนื้อนับเป็นอาชีพตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรในปัจจุบัน เพราะความต้องการในการบริโภคเนื้อวัวทั้งในประเทศและในการส่งออกยังคงมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเมื่อมีตลาดรองรับเป็นกลุ่มผู้บริโภคจำนวนมาก รวมถึงทั้งภาครัฐบาลและหน่วยงานเอกชนก็มีนโยบายให้การสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ หนทางสำหรับผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงโคเนื้อจึงนับว่าสดใสมาก

การเลี้ยงโคเนื้อเป็นอาชีพที่ทำกำไรให้กับผู้เลี้ยงได้ในระยะเวลาอันสั้น  โคเนื้อตัวเมียใช้ระยะเวลาขุนเพียง 2 เดือนก็สามารถนำออกขายได้แล้ว หรือโคเนื้อบางตัวที่ขุนในเวลาไม่ถึง 2 เดือน แต่มีเนื้อมาก มีหลังเต็ม โครงเต็ม พ่อค้าก็เต็มใจจะรับซื้อเช่นกัน ซึ่งราคาของโตเนื้อแตะกิโลกรัมละกว่า 65 บาท ในช่วงที่ความต้องการวัวเนื้อปริมาณมาก วัวเนื้อขาดตลาดเกษตรกรมีเท่าไหร่ก็ถูกรับซื้อหมด เป็นอาชีพที่นับว่ามั่นคงให้ผลกำไรที่แน่นอน

วิธีการการเลี้ยงโคเนือสำหรับผู้เริ่มเลี้ยงต้องรู้จักชนิดพันธุ์ของโคเนื้อเสียก่อน โดยต้องศึกษาพันธุ์ของโคที่สามารถให้ลูกดก กำไรจะยู่ที่จำนวนของลูกโคที่ตกออกมา แม่โคในพันธุ์ที่เลือกเลี้ยงสามารถตกลูกได้ปีละกี่ตัว หลังจากระยะการหย่านมลูกโคมีขนาดใญ่แข็งแรงคุณภาพดีก็จะขายได้ราคาที่ดี การเลือกพันธุ์ของโคจึงขึ้นอยู่กับวัตถุระสงค์ของผู้เลี้ยง ว่าต้องการเลี้ยงเพื่อจุดประสงค์ใดจึงกำหนดเลือกพันธุ์ได้อย่างเหมาะสม พันธุ์ของโคเนื้อได้แก่

Farming

โคพื้นเมืองโคพันธุ์นี้จะมีลักษณะขนาดที่เล็กกะทัดรัด ตัวผู้จะมีเหนียงแต่ไม่ยานมาก มีสีหลากหลาย มีน้ำหนักอยู่ที่เพศเมีย 200ถึง 250 กก. เพศผู้มีน้ำหนัก 300 ถึง 350 กก. โคบราห์มันเป็นสายพันธุ์จากอินเดียที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์จากประเทศอเมริกา ส่วนใหญ่ไทยจะนำเข้าพ่อพันธุ์จาก ประเทศสหรัฐอเมริกา กับออสเตรเลีย มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าพันธุ์พื้นเมืองหลายเท่า น้ำหนักตัวเพศเมียอยู่ที่ 500 ถึง 700 กก. เพศผู้ 800 ถึง1200 กก.โคพันธุ์ชาร์โร่เลส์ เป็นโคจากประเทศฝรั่งเศส มีนิสัยเชื่อง มีขนาดตัวใหญ่มากมีกล้ามเนื้อมาก มีน้ำหนักตัวเพศเมีย700 ถึง800 กก. เพศผู้ 1100 กก.โคพันธุ์ตาก โคพันธุ์นี้เป็นลูกผสมระหว่างพันธุ์บราห์มันและชาร์โร่เลส์ นอกจากนั้นยังมีโคพันธุ์ซิมเมทัลจากประเทศสวิวเซอร์แลนด์  พันธุ์กบิลบุรี เป็นพันธุ์ที่เกิดขึ้นจากการผสมของพันธุ์บราห์มันและซิมเบทัล และพันธุ์ฮินดูปราซิล เป็นพันธุ์จากอินเดียแต่มีการพัฒนาสายพันธุ์จากประเทศบราซิล

cowEatgrass

อาหารที่ใช้เลี้ยงโคเนื้อ จะมีทั้งอาหารหยาบ เช่นพืชตระกูลหญ้า พืชตระกูลถั่ว รวมถึงวัสดุพลอยได้จากการเกษตร อาหารข้นคืออาหารที่มีคุณค่าโภชนาการสูง มีโปรตีนสูงกากใยต่ำทำให้โคย่อยง่าย อาหารข้นสำเร็จรูปก็คืออาหารในลักษณะเม็ดที่มีส่วนประกอบสมบูรณ์ใช้ขุนโค อารชนิดเดียวเช่นปลายข้าว ข้าวโพอบด กากถั่วลิสง กากปาล์ม หัวอาหาร อาหารสำเร็จรูป ทีเอ็มอาร์ เป็นต้น นอกจากอารดังที่กล่าวมาในการเลี้ยงโคเนื้อยังต้องการอาหารเสริม ได้แก่แร่ธาตุเสริม ซึ่งมาในรูปแบบของแร่ธาตุผงและแร่ธาตุก้อนด้วย

การเลี้ยงโคเนื้อเป็นอาชีพ ยังต้องมีความรู้ ส่ำสมประสบการณ์ในรายละเอียดอีกหลายประการ เช่นต้องรู้จักโรคและการป้องกันโรคที่อาจเกิแก่โคได้  ความรู้ในด้านการตลาด เมื่อผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงโคเนื้อ มีการเลี้ยงโคจำนวนากก็ต้องศึกษาการตลาดและหาตลาดรองรับที่สามารถราคาดีด้วย ความรู้และประสบการณืจะทำให้ได้รับความสำเร็จในอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อได้